วันนี้จะมากล่าวถึงเทรดเดอร์มืออาชีพกับเทรดเดอร์ทั่วไปว่า มีความแตกต่างกันอย่างไร การซื้อมาถูก แล้วไปขายที่แพงๆ เนี่ยะมันเป็นพื้นฐานการลงทุนเพื่อให้ได้กำไร ซึ่งนักลงทุนทุกๆท่านต่างก็เข้าใจดีใช่ไหมครับ แต่ในวงการของตลาด Forex นักลงทุนทั่วไปต่างทำตรงข้ามกัน นั่นก็คือ ชอบซื้อในช่วงที่ราคาแพงๆ แล้วไปขายในช่วงที่ราคามันถูกๆ นี่จึงเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เทรดเดอร์ทั่วไปต่างกับเทรดเดอร์มืออาชีพนั่นก็คือ
- เทรดเดอร์มืออาชีพ ซื้อช่วงราคาถูก >> ขายช่วงราคาแพง = กำไร
- เทรดเดอร์มือใหม่หรือทั่วไป ซื้อช่วงราคาแพง >> ขายช่วงราคาถูก = ขาดทุน
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
เอาง่ายๆนะครับ พอเห็นราคามันดีดขึ้นแรงๆ หรือขึ้นเรื่อยๆ ก็เกิดอารมณ์ อยากเข้าไปมีส่วนร่วม เซนซิทีฟ อดรนทนไม่ไหว โดนอารมณ์ของตลาดครอบงำ จึงไล่ตามซื้อในช่วงที่ราคามันแพงหรือสูง ผลที่ได้ก็คือราคามันไม่ไปต่อ ดันกลับมาลงซะงั้น ท้ายสุดก็ต้องไล่ขายทิ้งหนีตายกันจ้าละหวั่นในช่วงที่ราคามันตกต่ำ ช่วงที่ตลาด Panic ผลก็คือขาดทุนยับนั่นเอง เป็นกันเกือบทุกคนครับ จึงไม่ต้องห่วง?? ไม่เหงาแน่?? เพื่อนเยอะครับ อิอิ (ประชด)
แล้วจะแก้ยังไง?
เราต้องเข้าใจพฤติกรรมของตลาด หรือพฤติกรรมของราคา แล้วให้รู้ทันมัน สรุปง่ายๆนะครับ ในช่วงที่ราคาขึ้น(แท่งเทียนเป็นสีเขียว) อาจจะเป็นเพราะแรงซื้อของเทรดเดอร์เยอะหรือเกิดจากการปั่นราคาจากมือที่มองไม่เห็นของขาใหญ่ๆ หรือจะเกิดจากข่าวเหตุการณ์ไม่คาดฝันอะไรก็ตามแต่ อารมณ์หรือพฤติกรรรมของตลาดในช่วงขาขึ้นเช่นนี้ มักดึงนักลงทุนส่วนใหญ่เข้ามามีส่วนร่วม หรือถูกดึงให้เข้ามาเปิดออเดอร์ซื้อในตลาดในจำนวนมาก เมื่อเรารู้ทันเช่นนี้ เราก็ต้องระวัง พยายามอย่าไปตาม หรือหากจะตามก็ตามอย่างมีสติ ใส่ออเดอร์ หรือ ล็อตน้อยๆ เพื่อดูทิศทางชั้นเชิงของตลาดก่อน ไม่ใช่ไล่ยิงซะเต็มแม็กจนเกิด Overtrade แบบนั้น
กรณีในช่วงตลาดขาลงก็เช่นกัน จะสังเกตเห็นว่า เนื่องจากช่วงนั้น (ก่อนหน้านี้) เทรดเดอร์มือใหม่หรือเทรดเดอร์ทั่วไปที่หลงทางเข้าไปถือออเดอร์ buy ไว้ แต่เมื่อราคามันลง ต่างก็พากันขาย(ปิดออเดอร์ขาดทุนไป) คล้ายๆโดนบังคับ หรือถูกเขย่าให้ออกจากตลาด จากนั้นเมื่อคนขาย(เทรดเดอร์ที่ปิดออเดอร์ขาดทุน) โดยเข่ยาออกจนเกือบหมดเกลี้ยงหรือเหลือน้อยมากๆ ของเมื่อมีคนขายขายน้อยราคามันก็ขึ้นชิครับ สรุปก็ประมาณนี้ครับ บางท่านอาจจะยังงงๆ ลองดูจากภาพตัวอย่างด้านล่างเอานะครับ